เมื่อก่อนผมเข้าใจว่า
“การลงทุน”
คือเรื่องของหุ้น คอนโด ทองคำ
ต้องมีผลตอบแทน ต้องคูณ ต้องโต ต้องไว
(เท่านั้น)...
แต่พออายุเข้าเลข 5...
ผมเริ่มรู้ว่า มีการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง
ที่ ไม่ต้องมีพอร์ต ไม่ต้องใช้สูตร
แต่ให้ผลตอบแทนลึกกว่าและนานกว่า
ผมเรียกมันว่า...
“การลงทุนในความสุขระยะยาว”
ผมซื้อรองเท้าดีๆ 1 คู่
ไม่ใช่เพื่อโชว์ แต่เพื่อเดินสบายไปอีกหลายปี
ผมจ่ายแพงขึ้นนิด เพื่อกินของดีต่อสุขภาพ
เพราะค่ารักษาแพงกว่าค่าผักแน่นอน
ผมลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แล้วหันมาซื้อเวลา
หยุดงานเพิ่มเดือนละครั้ง เพื่ออยู่กับตัวเอง
ผมเปลี่ยนจากการซื้อของ...
มาเป็น “การจ่ายเพื่อเรียนรู้” เช่น หนังสือดีๆ คอร์สดีๆ
หรือแม้แต่ “กาแฟดีๆ กับบทสนทนาคุณภาพ”
ผมไม่ยึดติดกับสิ่งของ
แต่ผมไม่ลังเลถ้ามัน “ช่วยให้ผมมีชีวิตที่เบาขึ้น”
ทุกบาทที่จ่ายออกไป
ผมถามตัวเองแค่ว่า...
“สิ่งนี้…จะทำให้เรารู้สึกดีแค่ 3 นาที หรือ 3 เดือน?”
“มันตอบสนองตัณหา หรือมันเสริมชีวิต?”
ผมยังอยู่ในโลกทุนนิยม
ยังใช้เงิน ยังมีความอยาก
แต่วันนี้… ผมเลือกลงทุนแบบที่
ไม่ทำลายตัวเองในระยะยาว
เพราะความสุขแบบใช้เงินแก้เหงา มันหมดเร็ว
แต่ความสุขที่สร้างคุณภาพชีวิตดีๆ มัน “ทบต้นทบดอก” เงียบๆ ไปเรื่อยๆ
ใครที่กำลังรู้สึกว่า
“ชีวิตไม่อยากเร่งอีกแล้ว แต่อยากดีขึ้นอย่างยั่งยืน”
ลองเริ่มลงทุนแบบเงียบๆ ดูครับ
ซื้อสุขภาพดี
ซื้อพื้นที่เงียบ
ซื้อเวลาอยู่กับคนที่ไม่ทำให้คุณต้องแสดง
หรือซื้อการไม่ต้องแข่งขันอีกต่อไป
การลงทุนแบบนี้ ไม่มีดัชนีให้ดู
แต่ให้ผลตอบแทนที่คุณจะ “รู้สึกได้จากข้างใน” ตลอดชีวิต
มาแชร์ประสบการณ์ การลงทุนกันนะครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ
“ผมเริ่มลงทุนในความสุข…แบบที่ไม่หมดตัว แต่ได้กำไรไปทั้งชีวิต”
“การลงทุน”
คือเรื่องของหุ้น คอนโด ทองคำ
ต้องมีผลตอบแทน ต้องคูณ ต้องโต ต้องไว
(เท่านั้น)...
แต่พออายุเข้าเลข 5...
ผมเริ่มรู้ว่า มีการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่ง
ที่ ไม่ต้องมีพอร์ต ไม่ต้องใช้สูตร
แต่ให้ผลตอบแทนลึกกว่าและนานกว่า
ผมเรียกมันว่า...
“การลงทุนในความสุขระยะยาว”
ผมซื้อรองเท้าดีๆ 1 คู่
ไม่ใช่เพื่อโชว์ แต่เพื่อเดินสบายไปอีกหลายปี
ผมจ่ายแพงขึ้นนิด เพื่อกินของดีต่อสุขภาพ
เพราะค่ารักษาแพงกว่าค่าผักแน่นอน
ผมลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แล้วหันมาซื้อเวลา
หยุดงานเพิ่มเดือนละครั้ง เพื่ออยู่กับตัวเอง
ผมเปลี่ยนจากการซื้อของ...
มาเป็น “การจ่ายเพื่อเรียนรู้” เช่น หนังสือดีๆ คอร์สดีๆ
หรือแม้แต่ “กาแฟดีๆ กับบทสนทนาคุณภาพ”
ผมไม่ยึดติดกับสิ่งของ
แต่ผมไม่ลังเลถ้ามัน “ช่วยให้ผมมีชีวิตที่เบาขึ้น”
ทุกบาทที่จ่ายออกไป
ผมถามตัวเองแค่ว่า...
“สิ่งนี้…จะทำให้เรารู้สึกดีแค่ 3 นาที หรือ 3 เดือน?”
“มันตอบสนองตัณหา หรือมันเสริมชีวิต?”
ผมยังอยู่ในโลกทุนนิยม
ยังใช้เงิน ยังมีความอยาก
แต่วันนี้… ผมเลือกลงทุนแบบที่
ไม่ทำลายตัวเองในระยะยาว
เพราะความสุขแบบใช้เงินแก้เหงา มันหมดเร็ว
แต่ความสุขที่สร้างคุณภาพชีวิตดีๆ มัน “ทบต้นทบดอก” เงียบๆ ไปเรื่อยๆ
ใครที่กำลังรู้สึกว่า
“ชีวิตไม่อยากเร่งอีกแล้ว แต่อยากดีขึ้นอย่างยั่งยืน”
ลองเริ่มลงทุนแบบเงียบๆ ดูครับ
ซื้อสุขภาพดี
ซื้อพื้นที่เงียบ
ซื้อเวลาอยู่กับคนที่ไม่ทำให้คุณต้องแสดง
หรือซื้อการไม่ต้องแข่งขันอีกต่อไป
การลงทุนแบบนี้ ไม่มีดัชนีให้ดู
แต่ให้ผลตอบแทนที่คุณจะ “รู้สึกได้จากข้างใน” ตลอดชีวิต
มาแชร์ประสบการณ์ การลงทุนกันนะครับ
ขอบคุณมากๆ ครับ